UFA Slot

เปิดสูตรคิดต้นทุน ร้านทำเล็บ ตั้งราคาแค่ไหน ไม่ให้เจ๊ง

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง สุภาษิตนี้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจความสวยความงาม ที่แม้จะไม่ใช่สิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับทุกคน แต่สำหรับคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามทั้งหลาย เรื่องนี้ถือว่ายอมกันไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องให้ตัวเองดูดี

ธุรกิจประเภทร้านทำเล็บ หรือเสริมสวยจึงยังเติบโตโดยมีกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ให้การสนับสนุน ซึ่งการจะถามว่าวิธีเปิดร้านเสริมความงามให้ได้กำไรต้องทำอย่างๆไร สั้นๆ ง่ายๆ คือ “บริการดี คุณภาพดี ราคาเหมาะสม” รวมถึงถ้ามีทำเลในย่านชุมชน โอกาสกำไรก็มีมาก เชื่อว่าหลายคนมองโอกาสของธุรกิจนี้ยังเติบโตได้สดใส แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าราคาในการให้บริการของแต่ละร้านที่ไม่เท่ากันมันเกิดจากปัจจัยอะไร ทั้ง ๆที่ก็เป็นเรื่องการทาสีเล็บ เพ้นท์เล็บ เหมือนๆ กันแต่ทำไมร้านนี้ตั้งราคาแบบนี้ ในขณะบางร้านตั้งราคาอีกแบบ อะไรคือตัวแปรของราคาเหล่านี้

  •  ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจของรูปแบบการลงทุนของร้านทำเล็บที่มี 3 รูปแบบคือ

1.ร้านขนาดเล็ก

เป็นร้านสำหรับการเริ่มใหม่และผู้ลงทุนเน้นหาประสบการณ์ให้มากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นร้านเปิดตามตลาดนัด ตามชุมชนทั่วไป หรือเปิดแบบเคลื่อนที่ก็ได้ บริการในร้านก็จะมีไม่หลากหลายส่วนใหญ่เป็นการเพ้นท์เล็บ ต่อเล็บ ทาสีเล็บ ค่าบริการก็ไม่สูง ประมาณ 60-200 บาท

2.ร้านขนาดกลาง 

พื้นที่ประมาณ 4×4 เมตร อาจใช้พื้นที่ในอาคารพาณิชย์ หรืออาคารเช่าในตลาดนัดขนาดใหญ่ และจะมีการตกแต่งให้สวยงามมากขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากขึ้น มีบริการที่หลากหลายและรูปแบบของการเพ้นท์เล็บ ทำเล็บจะมีลวดลายให้เลือกมากขึ้น ค่าบริการก็จะสูงขึ้น เฉลี่ยประมาณครั้งละ 80-400 บาท

3.ร้านขนาดใหญ่

จัดเป็นธุรกิจครบวงจรที่อาจจะมีบริการเสริมความงามอื่นๆเข้ามาเสริมเป็นร้านเสริมสวยขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีพื้นที่ประมาณ 30-40 ตารางเมตร ส่วนใหญ่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือเป็นร้านนอกห้างแต่ก็จะต้องมีการตกแต่งแบบพรีเมี่ยม ค่าบริการของร้านในลักษณะนี้ก็แพงมากขึ้น เฉลี่ยต่อคนต่อครั้งประมาณ 500 – 2,000 บาท

UFA Slot

อุปกรณ์พื้นฐานของการเปิดร้านทำเล็บลักษณะบริการของร้านเพ้นท์เล็บ ประกอบไปด้วย เพ้นท์เล็บด้วยปลายพู่กัน  เพ้นท์เล็บลายน้ำ  เพ้นท์เล็บแบบใช้สติ๊กเกอร์ติด  เพ้นท์เล็บแบบใช้เครื่องออกแบบ  เพ้นท์เล็บแบบปั้น

นูน ซึ่งบางทีการเพ้นท์เล็บอย่างเดียวอาจเป็นตัวเลือกที่น้อยไป ร้านเพ้นท์เล็บบางทีต้องหาตัวเลือกมาเสริมเช่น สปา นวดมือ นวดเท้า หรือบางร้านครบวงจรก็มีทำผม ทำเล็บ เต็มที่กันไปเลย ซึ่งในกรณีที่เป็นร้านเพ้นท์เล็บธรรมดา อุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมีคือ

  • พู่กันเพ้นท์เล็บ (ซื้อแบบเต็มรูปแบบ 1 ชุดจะมี 15 ชิ้น ซึ่งมีรูปแบบและขนาดต่างๆกันเพื่อใช้งานได้หลากหลาย)
  • สีอะครีลิค ที่มีให้เลือกหลายยี่ห้อ 1 กล่องจะมี 12 สี 
  • น้ำยาทาเล็บ มีสีพื้นฐาน 4 สีคือ  ชมพู แดง ดำ และขาว น้ำยาทาเล็บที่ใช้ควรเป็นแบบไร้สารเคมีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า แต่ก็อาจทำให้มีต้นทุนตรงนี้สูงขึ้นด้วย
  • น้ำยาเคลือเล็บ ใช้ตอนทาสีเล็บเสร็จ มีทั้งแบบสีใสและแบบมันวาว
  • กากเพชรประดับ จะมีให้เลือกกว่า 50 สี ชนิดของกากเพชรก็แตกต่างกันไป ใช้เพื่อทำให้เล็บสวยงามยิ่งขึ้น
  • อุปกรณ์ทั่วไป เช่น จานสีเพ้นท์เล็บ น้ำยาทำความสะอาดเล็บ ตะไบเล็บ แปรง คีมแต่งเล็บ สำลี เป็นต้น

ควรตั้งราคาแค่ไหน ไม่ให้ร้านเจ๊ง การเปิดร้านเพ้นท์เล็บ จำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ในงานที่ทำเป็นอย่างดี อัตราค่าบริการส่วนใหญ่หากเป็นร้านธรรมดาไม่ติดแอร์ จะราคาจะไม่เกิน 100 บาท หากเป็นห้องติดแอร์เริ่มต้นที่ 250 บาท และถ้าเป็นร้านบนห้างจะเริ่มต้นที่ 350 บาท ขึ้นไป ส่วนราคาสูงสุดที่ให้บริการจะอยู่ระหว่าง 3,000-4,000 บาท

ซึ่งการกำหนดราคาใดๆ ก็ตาม อาจจะมองว่าขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการให้บริการ เช่นแค่ตัดเล็บ หรือแต่งเล็บนิดหน่อยราคาก็อาจจะไม่แพง แต่ถ้าทำเล็บและเลือกลวดลายยากๆ หรืออาจมีการต่อเล็บเพิ่มด้วย ราคาในการให้บริการก็จะสูงขึ้น และเมื่อนำมารวบรัดเป็นสูตรในการคิดราคาเบื้องต้นได้ดังนี้

 กำไร=(ต้นทุนคงทื+ต้นทุนผันแปร)/ปริมาณลูกค้าโดยเฉลี่ยคำว่าต้นทุนคงที่คือ ค่าเช่า ค่าจ้างลูกน้อง ซึ่งถือเป็นรายจ่ายชัดเจนว่าแต่ละเดือนเราต้องเสียเท่าไหร่ รวมกับต้นทุนผันแปร ได้แก่ อุปกรณ์วัตถุดิบที่ต้องซื้อมาใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น


ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ chihiroyabe.com อัพเดตทุกสัปดาห์

Releated